ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า การเรียนรู้ภาษาอังกฤษมีประโยชน์ทั้งในด้านชีวิตส่วนตัวและด้านวิชาชีพ
by
สำรวจความเป็นไปได้ในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ และความก้าวหน้าที่ผู้เรียนจะได้รับทั้งในด้านชีวิตส่วนตัวและด้านวิชาชีพ รวมถึงประโยชน์ที่ได้เพิ่มเติมจากการเรียนรู้ภาษาที่ใช้กันทั่วโลก — คำใบ้: ดีต่อสมองของคุณ อ่านเพิ่มเติม
คุณอาจเคยได้ยินว่าภาษาอังกฤษคือสิ่งเรียกว่าภาษากลาง (Lingua Franca) ซึ่งหมายความว่าภาษาอังกฤษกำลังกลายเป็นภาษาแห่งการสื่อสารของโลกในกลุ่มผู้ที่ไม่ใช่เจ้าของภาษา
ที่เป็นเช่นนี้เพราะมีตัวเลขประมาณการณ์ว่าผู้คนเกือบ 2 พันล้านคนทั่วโลกพูดภาษาอังกฤษ ทำให้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่มีผู้ใช้มากที่สุด และเป็นภาษาที่มีผู้ใช้เป็นภาษาแม่มากที่สุดเป็นอันดับสาม มาตรฐานต่างๆ เหล่านี้ทำให้ภาษาอังกฤษได้รับการขนานนามว่าเป็นภาษาที่ใช้กันทั่วโลก
เนื่องจากความคาดหวังของนายจ้างในทุกวันนี้มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ความสามารถในการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพแบบข้ามวัฒนธรรม พรมแดน และภาษากลายเป็นทักษะที่จำเป็นอย่างยิ่ง และนี่คือจุดที่ทำให้ทักษะภาษาอังกฤษเป็นทักษะที่สำคัญ
Simon Young ผู้จัดการฝ่ายดูแล BTEC ของ Pearson Asia กล่าวว่า ขณะนี้ห่วงโซ่อุปทานและฐานลูกค้าล้วนมีความเป็นสากล บรรดาบริษัทข้ามชาติจึงกำหนดให้ความเชี่ยวชาญด้านภาษาอังกฤษเป็นทักษะที่ขาดไม่ได้ ไม่ใช่เป็นเพียงทักษะที่มีก็ดีไม่มีก็ได้
“ดูเหมือนว่าภาษาอังกฤษได้กลายเป็นทักษะสำคัญสำหรับการสื่อสารทางธุรกิจในทุกบทบาทหน้าที่ ดังนั้น ในประเทศต่างๆ เช่น [ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้] ซึ่งมีแรงงานในพื้นที่อันเข้มแข็ง การปฏิสัมพันธ์ระหว่างแผนกต่างๆ จึงต้องอาศัยความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษเป็นอย่างมาก ภาษาอังกฤษได้กลายเป็นสื่อกลางในการสื่อสารทั่วโลกไปแล้ว”
ในขณะที่ภาษาอังกฤษช่วยเพิ่มโอกาสทางอาชีพและการเติบโตด้านวิชาชีพของคุณ แต่การพูดได้หลายภาษาจะทำให้คุณเป็นผู้เรียนที่เฉียบแหลมมากยิ่งขึ้น เพราะประโยชน์ด้านความรู้ความเข้าใจในการชำนาญภาษาอื่นนั้นดีต่อสมองของคุณ
และโดยเฉพาะผู้เรียนภาษาอังกฤษ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าผู้เรียนหลายภาษามักได้คะแนนที่สูงกว่าในการทดสอบแบบมาตรฐาน ซึ่งน่าจะเกิดจากการเรียนรู้กฎไวยากรณ์และคำศัพท์ที่แตกต่างกัน ตลอดจนความสามารถในการมุ่งเน้นไปยังข้อมูลที่เกี่ยวข้อง และลดความสนใจในรายละเอียดที่มีความสำคัญน้อยกว่า
การเรียนรู้ภาษาอังกฤษควบคู่ไปกับเรื่องอื่นเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงกว่ามากในการเรียนรู้ภาษา การเรียนแบบสองต่อหนึ่งจะเพิ่มบริบทให้กับสิ่งที่คุณกำลังเรียนรู้ และส่งเสริมการพัฒนาทักษะด้านแรงงาน สำหรับดร. Tran Huong Quynh หัวหน้าแผนกภาษาศาสตร์ภาษาอังกฤษ คณะภาษาอังกฤษที่มหาวิทยาลัยการศึกษาแห่งชาติฮานอยมองว่า ภาษาอังกฤษถือเป็นเครื่องมือในการเปิดประตูสู่ความรู้สำหรับผู้เรียนในปัจจุบัน
“การเรียนรู้ [คือสิ่งที่มีความสำคัญ] และนักเรียนต้องการเรียนรู้สิ่งที่เป็นประโยชน์กับพวกเขา แทนที่จะมุ่งความสนใจไปที่ภาษาอังกฤษเพียงอย่างเดียว ตัวอย่างเช่น นักเรียนสามารถเรียนภาษาอังกฤษและวิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษและภูมิศาสตร์ หรือแม้แต่ภาษาอังกฤษควบคู่กับการเรียนรู้วิธีการนำเสนอ หรือทักษะอื่นๆ ที่สำคัญในศตวรรษที่ 21
“คุณควรเรียนรู้ภาษาอังกฤษอย่างมีบริบท และต้องเรียนรู้ภาษาทุกวัน ไม่ว่าจะในบริบททางวิชาชีพหรืองานที่ทำ หรือการสนทนาในชีวิตประจำวัน โดยมีจุดประสงค์ในการเรียนรู้ที่ชัดเจน ฉะนั้น ผู้เรียนควรมีโอกาสเรียนรู้ภาษาอังกฤษที่ผู้คนใช้ในสถานการณ์จริง ไม่ใช่แค่ภาษาตามตำราเท่านั้น” เธอกล่าว
ผู้เรียนควรระบุเหตุผลที่ตนต้องการเรียนรู้ภาษาอังกฤษให้ชัดเจน เพื่อให้แน่ใจว่าตนตั้งเป้าหมายได้ถูกต้องและมุ่งเน้นไปยังด้านที่เหมาะสม ดร. Quynh ตั้งข้อสังเกตว่าในการสร้างความสามารถทางภาษาอังกฤษนั้น ผู้เรียนต้องเข้าใจความแตกต่างระหว่างภาษาอังกฤษทั่วไป ภาษาอังกฤษเชิงวิชาการ และภาษาอังกฤษสำหรับธุรกิจ จากนั้นจึงใช้สร้างรูปแบบการเรียนรู้ให้เหมาะสม
“สำหรับฉัน การสร้างความชำนาญควรจะหมายถึงทั้งสามด้าน ซึ่งได้แก่ภาษาอังกฤษเชิงวิชาการ ภาษาอังกฤษสำหรับธุรกิจ หรือภาษาอังกฤษที่ใช้ในชีวิตจริง ซึ่งแต่ละด้านจะมุ่งเน้นไปที่แง่มุมหนึ่งของภาษาอังกฤษ ที่ผู้เรียนภาษาจำเป็นต้องใช้ภาษาอังกฤษให้เหมาะสมในสถานการณ์ที่แตกต่างกัน ดังนั้น ภาษาอังกฤษเชิงวิชาการคือภาษาอังกฤษที่คุณต้องใช้ในโลกของการวิจัย การเรียน และการสอน
“ส่วนภาษาอังกฤษสำหรับธุรกิจ ผู้เรียนสามารถใช้ภาษาอังกฤษในสภาพแวดล้อมแบบมืออาชีพและมีความสามารถในการสื่อสารในที่ทำงาน ตัวอย่างเช่น ความสามารถในการเขียนอีเมล ทำความเข้าใจ และตอบกลับโดยใช้ภาษาที่เหมาะสม รวมถึงควรมีความสามารถในการนำเสนองาน หรือเข้าร่วมการประชุมทางธุรกิจเป็นภาษาอังกฤษได้” เธอกล่าว
Quynh มองว่าคุณค่าในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษอยู่ที่การมีความเข้าใจและระดับความชำนาญภาษาอังกฤษทั้งสามรูปแบบ เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากกระบวนการเรียนรู้ เธอกล่าวว่า ในการปลดล็อกศักยภาพทางวิชาชีพและชีวิตส่วนตัวได้อย่างแท้จริงนั้น ผู้เรียนควรพยายามพัฒนาความสามารถในการสื่อสารทุกรูปแบบของชีวิตประจำวัน
“เราทุกคนต่างคุ้นเคยกับภาษาอังกฤษที่ใช้ในชีวิตจริง ซึ่งเป็นความสามารถด้านการสื่อสารในสังคมโดยทั่วไป ดังนั้น ผู้เรียนควรมีความสามารถในการสื่อสารอย่างมั่นใจในชีวิตประจำวันเป็นภาษาอังกฤษ ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหน เช่น ที่บ้านหรือที่ทำงาน ขณะเดินทาง หรือการเข้าสังคมในสถานการณ์ประจำวัน
“การที่จะปลดล็อกโอกาสด้านอาชีพและเพิ่มโอกาสที่จะได้รับการว่าจ้างนั้น ฉันคิดว่าผู้เรียนควรรู้ว่าตนเองต้องการใช้ภาษาอังกฤษในรูปแบบใด โดยพิจารณาดูว่าจริงๆ แล้วตนต้องการใช้ภาษาอังกฤษเพื่ออะไร เช่น ต้องการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการทำงาน หรือเพื่อเข้าสังคมและสื่อสารนอกที่ทำงาน” เธอกล่าว