ข้อได้เปรียบทางด้านวิชาชีพ: BTEC กำลังสร้างข้อได้เปรียบให้กับนักศึกษาไทยที่สถาบัน เทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) อย่างไร
by
ในประเทศไทย ภาคการผลิตระดับสูงกำลังเฟื่องฟู การสนับสนุนของรัฐบาลมีส่วนกระตุ้นให้เกิด ความสนใจในการเรียนรู้เฉพาะทางด้านวิศวกรรม และคนไทยรุ่นใหม่จำนวนมากต่างมองหาอาชีพ ในสาขาที่เริ่มมีการแข่งขันกันสูงขึ้นเรื่อยๆ
สถาบันอุดมศึกษาของประเทศ เช่น สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) จึงตอบสนองความต้องการดังกล่าวด้วยการสนับสนุนความสนใจที่เพิ่มสูงขึ้นนี้
จากการที่วิศวกรรุ่นใหม่จำนวนมากมุ่งให้ความสนใจในสาขาขั้นสูง เช่น นาโนเทคโนโลยี นักศึกษา ระดับปริญญาตรีในสาขาวิชา STEM จึงต้องการหลักสูตรเพิ่มเติมที่ให้ความรู้เชิงปฏิบัติซึ่งมีความ จำเป็นอย่างมากและจะช่วยสร้างความได้เปรียบในตลาดงานได้
ความสนใจในการศึกษาเฉพาะทางที่เพิ่มมากขึ้นในสถาบันต่างๆ เช่น สจล. ได้ทำให้มีการนำหลัก สูตรด้านคุณวุฒิที่มีคุณภาพสูงและใช้งานได้จริงอย่าง BTEC มาปรับใช้มากขึ้น
โดยหลักสูตรที่มุ่งเน้นการให้ประสบการณ์และส่งมอบทักษะที่จะทำให้นักศึกษาเป็นที่ต้องการของ นายจ้างนี้ จะช่วยให้นักศึกษาที่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ในการทำงานจริงและการเรียนรู้เชิง ปฏิบัติได้รับคุณวุฒิที่สำคัญ ซึ่งจะช่วยสร้างความแตกต่างได้อย่างแท้จริงเมื่อเข้าสู่โลกการทำงาน
BTEC คืออะไร
นับเป็นเวลากว่า 30 ปีแล้วที่คุณวุฒิของ BTEC ได้มอบทางเลือกที่น่าสนใจแทนรูปแบบการเรียนรู้ ดั้งเดิมที่มุ่งเน้นในเชิงวิชาการมากกว่า
คุณวุฒิที่เกี่ยวข้องกับทักษะในการทำงานและความรู้ในชีวิตจริงเหล่านี้มีความน่าสนใจมากกว่าสำหรับ นักศึกษาที่คำนึงถึงเรื่องเส้นทางอาชีพ และต้องการประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับสาขาอาชีพที่ตนเลือก
เช่น STEM สุขภาพ กีฬา ธุรกิจ ไอที อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ และอีกมากมาย เนื่องจากหลักสูตร เน้นไปที่ “การเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติ” นักศึกษา BTEC จึงทำงานที่ได้รับมอบหมายซึ่งเกิดขึ้นจาก สถานการณ์จริงและสามารถนำสิ่งที่เรียนไปปฏิบัติได้ทันที
ฝ่ายนายจ้างเองก็จะได้รับผลประโยชน์เช่นกัน โดยจะมั่นใจได้ว่าผู้ที่จบใหม่จากหลักสูตร BTEC จะมีทั้งทักษะและประสบการณ์ตรงที่สามารถเริ่มทำงานได้ทันที นี่คือกลยุทธ์ที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว โดยข้อมูลจากทั่วโลกระบุว่า นักศึกษา BTEC กว่า 90% ได้รับการจ้างงานเต็มเวลาหลังจากสำเร็จ การศึกษา
หลักสูตรนี้ได้พัฒนาขึ้นเพื่อเป็นแนวทางในการรวมภาษาอังกฤษเข้ากับคุณวุฒิทางเทคนิคและวิชาชีพ โดยให้กรอบการทำงานแก่ผู้สอนเพื่อทดลองและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ในวิธีการสอน และนำเสนอ ทักษะที่หลากหลายให้กับนักศึกษาที่จำเป็นสำหรับการเติบโตในตลาดงานที่มีการแข่งขันสูงใน ปัจจุบัน
สจล. - ผู้ริเริ่มแห่งวงการการศึกษาไทย
สจล. ซึ่งเป็นสถาบันการวิจัยและการศึกษาในกรุงเทพฯ ได้ให้ความสำคัญกับ STEM เป็นอย่างมาก อีกทั้งชื่อเสียงของสถาบันในการจัดการฝึกอบรมวิชาชีพที่มีคุณภาพยังทำให้เป็นพันธมิตรที่เหมาะ อย่างยิ่งในการนำร่องหลักสูตร BTEC Higher Nationals ซึ่งเป็นหลักสูตรที่ให้คุณวุฒิด้านอาชีวศึกษ
ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลเทียบเท่ากับสองปีแรกของการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย สจล. เป็น ผู้ริเริ่มในวงการการศึกษาของไทยมายาวนาน รวมถึงการมอบปริญญาเอกสาขาวิศวกรรมไฟฟ้า เป็นแห่งแรกของประเทศ และมีความเกี่ยวข้องกับเครือข่ายพัฒนาการศึกษาด้านวิศวกรรมเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ (SEED-NET) อีกด้วย
ตามหาความรู้และทักษะต่างๆ ที่คุณต้องการ เพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่า ด้วยการผสานการเรียนรู้ภาษาอังกฤษกับการทดสอบทักษะและคุณวุฒิ
เรียนรู้เพิ่มเติม
ในขณะที่หลักสูตร BTEC เป็นที่รู้จักในระดับมัธยมศึกษาในประเทศไทยมาระยะหนึ่งแล้ว สจล. กำลังบุกเบิกการนำหลักสูตรไปใช้ในระดับอุดมศึกษาผ่านหลักสูตรใหม่ในสาขาวิศวกรรมการผลิตกับการ จัดการและความเป็นผู้นำ
ดร.ฉัตรพล ภคศิริ อาจารย์ผู้สอนหลักสูตร BTEC ของสถาบันกล่าวว่า ขั้นตอนการคัดเลือกของสจล. เพื่อเข้าร่วมหลักสูตร BTEC นั้นเป็นไปอย่างเข้มงวด โดยมีผู้สมัครที่ได้รับคัดเลือกเพียงเก้าคน จากทุกๆ 100 คน นักศึกษาที่กำลังศึกษาระดับปริญญาตรีด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี หรือ วิศวกรรมศาสตร์ควรสมัครหลักสูตรนี้
ทำไมต้องเป็น BTEC
ดร. ฉัตรพลสอนที่สจล. มาแล้วเป็นเวลาหกปี และเป็นผู้สอนหลักสูตร BTEC ของสถาบันเกี่ยวกับ หลักการทางวิศวกรรมไฟฟ้า
เขากล่าวว่าแม้หลักสูตรของ BTEC จะคล้ายคลึงกันในหลายๆ ด้านกับหลักสูตรที่เขาสอนก่อนหน้านี้ แต่นักเรียนของเขาจะได้รับประโยชน์อย่างมากจากประสบการณ์จริง โดยสังเกตว่านักศึกษาใน หลักสูตรของเขาได้ “เรียนรู้เกี่ยวกับการผลิต” โดยตรง ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาหางานได้หลังจาก สำเร็จการศึกษา
เขาเสริมว่าวิธีการใหม่ที่มุ่งเน้นให้นักเรียนได้เริ่มต้นด้วยตนเองและการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมช่วยให้ พวกเขา “มีความรับผิดชอบต่อตัวเอง” ซึ่งเป็นคุณลักษณะสำคัญที่นายจ้างต้องการเป็นอย่างมาก เขากล่าวว่าหลักสูตรนี้เหมาะสำหรับนักเรียนที่มีแรงจูงใจเพื่อเตรียมความพร้อมในการทำงาน และ นักเรียน BTEC ของเขาหลายคนมีส่วนร่วมในหลักสูตรนี้มากและให้ความสำคัญในแง่ของการเรียน เชิงปฏิบัติเป็นอย่างมาก ซึ่งการได้เกรดแค่พอผ่านไม่เพียงพอสำหรับพวกเขา กล่าวคือ พวกเขามุ่งหวังที่จะสำเร็จการศึกษาด้วยผลการเรียนที่โดดเด่น
เขาเสริมว่าหลักสูตรนี้เป็นคุณวุฒิเพิ่มเติมที่มีคุณค่าอย่างมหาศาล ซึ่งสามารถเรียนควบคู่กับหลักสูตร ระดับปริญญาตรีได้ “เหมือนกับมีปริญญาใบที่สอง ซึ่งโดยปกติแล้วถ้าคุณอยากมีปริญญาสองใบ ก็ยากที่จะทำได้ในสาขาที่แตกต่างกัน โดย [นักศึกษา] จะต้องกลับไปเริ่มเรียนปริญญาตรีอีกใบ และ ใช้เวลาเรียนมากขึ้น ดังนั้น เมื่อมองในแง่นี้หลักสูตรนี้จึงถือว่าดีมาก”
เส้นทางสู่ความสำเร็จ
เนื่องจากคุณวุฒิของ BTEC ในระดับที่สูงขึ้นนั้นค่อนข้างใหม่สำหรับมหาวิทยาลัยในประเทศไทย ประโยชน์ที่จะได้รับจากหลักสูตรในขณะนี้จึงค่อนข้างมีความแปลกใหม่สำหรับแผนกการจ้างงาน ของอุตสาหกรรมการผลิตและวิศวกรรมของประเทศ
อย่างไรก็ตาม ดร. ฉัตรพลมองว่าคุณวุฒินี้มีอนาคตที่สดใสในประเทศไทย เขามั่นใจว่าเมื่อนักศึกษา ของ BTEC สำเร็จการศึกษาและเข้าสู่โลกแห่งการทำงานมากขึ้นเรื่อยๆ นายจ้างจะยอมรับและให้ ความสำคัญกับคุณค่าของพวกเขา “หลายคนจะตระหนักถึง BTEC กันมากขึ้นเมื่อนักเรียนเริ่มสำเร็จ การศึกษาและได้รับประกาศนียบัตร จากนั้นโลกอุตสาหกรรมจะได้รับรู้ถึงขีดความสามารถของ พวกเขา” เขากล่าว
ดร. ฉัตรพลกล่าวว่า ทางสจล. มีแผนที่จะเปิดตัวหลักสูตร BTEC เพิ่มเติมในการหมุนเวียนหลักสูตร ในปัจจุบัน ทั้งด้านการจัดการการบริการ การจัดการและความเป็นผู้นำ และธุรกิจ เขาหวังว่าการเพิ่ม ตัวเลือกหลักสูตรจะช่วยสร้างสถาบันของเขาให้เป็นผู้นำด้าน BTEC ในประเทศไทยและดึงดูดผู้มี ความสามารถระดับแนวหน้าจากทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และที่อื่นๆ ทั่วโลก